2 คืน 3 วัน รอบๆ ทะเลสาบทาซาวะ นิวโตะ และมิซุซาวะออนเซ็น [Base! โทโฮคุ]

แผนที่พื้นที่ 青森県 岩手県 宮城県 秋田県 山形県 福島県 新潟県

นิวโตะ ออนเซ็นเคียว บ่อน้ำพุร้อนลับ มีบ่อน้ำพุร้อน 7 บ่อกระจายอยู่บริเวณตีนเขา เพลิดเพลินไปกับการเยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อน

ทะเลสาบทาซาวะซึ่งเต็มไปด้วยกิจกรรมเชิงปฏิบัติบนทะเลสาบ และคาคุโนะดาเตะ เมืองที่มีบรรยากาศแบบญี่ปุ่นก็อยู่ใกล้ๆ กัน

เริ่มต้น
วันที่ 1

ทะเลสาบทะซะวะ และรูปปั้นทัตสึโกะ

สีน้ำเงินเข้มน่าพิศวง พาวเวอร์สปอตที่น้ำลึกที่สุดในญี่ปุ่น

ทะเลสาบทะซะวะ และรูปปั้นทัตสึโกะ
ทะเลสาบทาซาวะ จุดชมวิวที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น มีความลึก 423.4 เมตร สีของน้ำบนพื้นผิวของทะเลสาบที่เปลี่ยนจากสีน้ำเงินอัญมณีไพฑูรย์ เป็นสีน้ำเงินของท้องฟ้า และเป็นสีน้ำเงินครามนั้นควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม และอยากให้ลองมาทำกิจกรรมในทะเลสาบที่มีทั้งการล่องเรือชมทิวทัศน์ ปั่นเรือถีบ พายเรือแคนู เรือคายัค และพายซับบอร์ด (SUP) เป็นต้น นอกจากนี้ สีสันของน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนไปตามองศาที่คุณมอง จึงแนะนำให้ทำกิจกรรม เช่น ปั่นจักรยาน เดินป่า และขับรถเลียบทะเลสาบ หรือหากมาตั้งแคมป์ก็จะได้เพลิดเพลินกับสีสันของทะเลสาบที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา
"รูปปั้นทัตสึโกะ" รูปปั้นผู้หญิงสีทองที่มีฉากหลังเป็นทะเลสาบอันงดงาม จุดท่องเที่ยวชื่อดังของทะเลสาบทะซะวะ สร้างขึ้นตามตำนานที่ว่า เมื่อนานมาแล้วมีหญิงสาวผู้หนึ่งชื่อว่าทัตสึโกะ เธอปรารถนาให้ความงดงามของเธอเป็นนิรันดร์ แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้กลายเป็นมังกร เธอจึงกระโจนตัวเองลงไปในทะเลสาบทะซะวะ และยังมีตำนานเล่าต่ออีกว่า ที่ทะเลสาบที่มีชื่อว่าฮาจิโร่กะตะ มีชายคนหนึ่งชื่อฮาจิโร่ทาโร่ได้กลายร่างจากมนุษย์ไปเป็นมังกรและได้มาหลงรักกับทัตสึโกะ ต่อมาทั้งสองได้มาอาศัยอยู่ด้วยกันที่ทะเลสาบทะซะวะ ทะเลสาบจึงลึกขึ้นเรื่อยๆ จนไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว ในขณะที่ทะเลสาบฮาจิโร่กะตะซึ่งไร้เจ้าของกลับตื้นเขินขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีๆ
และยังมีรูปปั้นอื่นที่เกี่ยวข้องกับตำนานทัตสึโกะอีก คือ รูปปั้นกวนอิม "คันนอนทัตสึโกะ" บนชายฝั่งตะวันออกของทะเลสาบ และรูปปั้น "เจ้าหญิงทัตสึโกะ" ที่ตั้งอยู่ในเขตศาลเจ้าโกซะโนะอิชิ รวมทั้งหมด 3 รูปปั้น และที่อยู่ที่ติดกับรูปปั้นทัตสึโกะ คือ "ศาลเจ้าอุคิกิ" จุดเสริมพลังเรื่องการครองคู่ ส่วน "ศาลเจ้าโกซะโนะอิชิ" มีเทพเจ้าเจ้าหญิงทัตสึโกะ (ทัตสึโคฮิเมะ โนะ คามิ) เป็นเทพเจ้าประจำศาลเจ้า ขึ้นชื่อเรื่องการให้พรที่เกี่ยวกับความสวยความงาม ประตูโทริอิสีแดงเป็นจุดถ่ายภาพที่ได้รับความนิยม

คฤหาสน์ตระกูลนักรบคาคุโนะดาเตะ

มาย้อนเวลาไปกับ “เกียวโตจิ๋วแห่งมิจิโนะคุ”

 คฤหาสน์ตระกูลนักรบคาคุโนะดาเตะ
คะคุโนะดะเทะเป็นเมืองรอบปราสาทที่เคยเจริญรุ่งเรืองในสมัยเอโดะและได้รับฉายาว่า ""เกียวโตจิ๋วแห่งมิจิโนะคุ"" โดยภายในพื้นที่เล็กๆ รัศมี 2 กม. มีสิ่งก่อสร้างตั้งแต่สมัยโบราณหลงเหลืออยู่จำนวนมาก เช่น คฤหาสน์ซามูไร จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติแห่แหนกันมาเพื่อชมเมืองอันงดงามแบบย้อนยุค ถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านระหว่างกลุ่มคฤหาสน์ซามูไรได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเขตอนุรักษ์กลุ่มสถาปัตยกรรมดั้งเดิมสำคัญของญี่ปุ่นและได้รับการอนุรักษ์เป็นสมบัติทางวัฒนธรรม
คุณสามารถเยี่ยมชมคฤหาสน์ซามูไรของจริงจำนวนมากได้ เช่น “คฤหาสน์อิชิกุโระ” “หมู่บ้านประวัติศาสตร์คะคุโนะดะเทะ คฤหาสน์อาโอยางิ” “คฤหาสน์อิวาฮาชิ” “คฤหาสน์มัตสึโมโตะ” “คฤหาสน์คาวาราดะ” ในบรรดานั้นมีคฤหาสน์ที่ยังใช้เป็นบ้านที่อยู่อาศัยแม้ในปัจจุบันนี้ด้วย บริเวณโดยรอบมีร้านให้เช่าชุดกิโมโนอยู่หลายแห่งจึงขอแนะนำให้เปลี่ยนไปสวมชุดกิโมโนโบราณแล้วไปเดินเล่น การเดินเล่นท่ามกลางบ้านเมืองที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นในชุดกิโมโนจะทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปอย่างไม่ต้องสงสัย แล้วจะยิ่งรู้สึกเช่นนั้นมากขึ้นเมื่อนั่งรถลากตระเวนไปตามถนนหนทางจาก “พิพิธภัณฑ์ศิลปะหัตถกรรมจากเปลือกไม้ซากุระ”
มีกลิ่นอายที่แตกต่างไปตามฤดูกาลทั้งสี่ไม่ว่าจะเป็นซากุระ ใบไม้เขียวชอุ่ม ใบไม้เปลี่ยนสี หรือวิวหิมะ แต่โด่งดังเป็นพิเศษในฐานะเป็นจุดชมซากุระชื่อดังและจะมีผู้คนมากมายมากันอย่างคับคั่งตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงเหมาะกับการชม สีซากุระของซากุระพันธุ์กิ่งย้อยที่สง่างามอยู่บนรั้วสีดำของคฤหาสน์ซามูไรนี้เป็นวิวธรรมชาติที่สวยงาม มีซากุระพันธุ์กิ่งย้อยเรียงรายกว่า 400 ต้นและ 162 ต้นในบรรดานั้นได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติของญี่ปุ่นอีกด้วย
ทำเลดีโดยใช้เวลาเดิน 15-20 นาทีจากสถานี JR คะคุโนะดะเทะ และ “คะคุโนะดะเทะเอกิมาเอะคุระ” อาคารสไตล์โกดังที่ตั้งอยู่หน้าสถานีได้กลายเป็นศูนย์แนะนำข้อมูลท่องเที่ยว ซึ่งการหยิบแผนที่หรือแผ่นพับนี้จะช่วยให้คุณเที่ยวได้สะดวกสบาย

พิพิธภัณฑ์งานหัตถกรรมจากเปลือกไม้ คาบะไซคุ คะคุโนะดาเตะ เมืองเซ็มโบกุ

พิพิธภัณฑ์งานหัตถกรรมจากเปลือกไม้ คาบะไซคุ คะคุโนะดาเตะ เมืองเซ็มโบกุ
""คาบะไซคุ"" เป็นงานฝีมือที่ทำจากเปลือกของต้นซากุระภูเขา งานฝีมือแบบดั้งเดิมนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ที่ความแวววาวและสีที่เข้มและเคร่งขรึม อุปกรณ์ชงชา เช่น กระปุกใส่ชา และอื่นๆ กล่องเก็บจดหมาย ตู้เก็บชา เข็มกลัด เข็มหมุด ฯลฯ ถูกทำขึ้นโดยใช้เทคนิคที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณในคาคุโนะดาเตะ และด้วยคุณสมบัติในการกันความชื้นและป้องกันไม่ให้แห้ง จึงนิยมนำมาทำเป็นภาชนะใส่ชา และอื่นๆ


ที่ศูนย์งานหัตถกรรมจากเปลือกไม้ คาบะไซคุ คะคุโนะดาเตะ เมืองเซ็มโบกุ มีห้องจัดแสดงนิทรรศการคาบะไซคุ และในบางโอกาสก็มีการสาธิตการผลิตคาบะไซคุด้วย
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทดลองทำคาบะไซคุเป็นภาพแขวนผนังขนาดจิ๋ว ให้คาบะไซคุที่คุณออกแบบด้วยตัวเองเป็นของที่ระลึกกลับบ้านดูไหม? (ต้องจองล่วงหน้า ฝ่ายออกแบบการแลกเปลี่ยนเมืองเซ็มโบกุ โทร 0187-43-3353)

หุบเขาดะคิกะเอะริ

จุดชมใบไม้เขียวชอุ่มและใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังที่มีลำธารสีฟ้าสวย

หุบเขาดะคิกะเอะริ
หุบเขาดะคิกะเอะริมีลำธารภูเขาสีฟ้าสวยงามและลึกลับ อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องความเขียวขจีและจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียง ที่มาของชื่อ "ดะคิกะเอะริ" นั้นมาจากเส้นทางบนภูเขานั้นแคบและชันมากจนเมื่อคนเดินสวนกันต่างฝ่ายต่างต้องสวมกอดกันจึงจะสามารถเดินผ่านไปได้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาชมความเขียวขจีคือกลางเดือนมิถุนายน - ปลายเดือนสิงหาคม และช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือต้นเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะมีการจัดงาน  "เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีดะคิกะเอะริ" มีการแสดงนาฏศิลป์ พิธีชงชา และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งมีผู้คนเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก
มีทางเดินเล่นอยู่ริมแม่น้ำ ใช้เวลาเดินเที่ยวละ 30 นาที ระยะทางราว 1.5 กม. เป็นเส้นทางที่มีทางต่างระดับเล็กน้อย จึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นได้แบบสบายๆ จาก "ศาลเจ้าดะคิกะเอะริ" ที่ตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าทางเดินเล่น เดินมาประมาณ 2 - 3 นาทีจะพบกับ "สะพานคามิโนะอิวะฮาชิ" จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในหุบเขาแห่งนี้ สะพานแขวนสีแดงตัดกับสีเขียวมรกตของผิวน้ำนั้นสวยงามมาก
จากจุดนั้น จะเดินผ่านโขดหินที่ตั้งกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เช่น "หินมิโกะ (สาวรับใช้เทพเจ้า)" "หินโกซะ (เสื่อ)" "ถ้ำไทชากุ"  แล้วจึงพบกับ "สะพานเซกังบาชิ" จุดถ่ายภาพยอดนิยมที่มีกำแพงหินขนาบทั้งสองฝั่งของแม่น้ำทอดตัวยาวเหนือพื้นผิวแม่น้ำสีน้ำเงินโคบอลต์ หลังจากผ่านอุโมงค์ธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านการขุด 3 อุโมงค์ ก็จะถึง "น้ำตกมิคาเอริ" ที่มาของชื่อนั้นมาจากความสวยงามของน้ำตกที่สวยจนอยากเหลียวหลังกลับมามองครั้งแล้วครั้งเล่า
จากน้ำตกมิคาเอริสามารถเดินเล่นต่อไปได้จนถึงอนุสาวรีย์รำลึกถึงเด็กชายอีมูระ
*เนื่องจากมีหิมะตก เส้นทางเดินเล่นจึงปิดทำการในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนเมษายนของทุกปี 

หมู่บ้านนิวโตะออนเซ็น

ออนเซ็นที่คนไม่ค่อยรู้จักและควรไปให้ได้สักครั้ง เจ็ดโรงแรมและเจ็ดน้ำพุร้อนที่สงบเงียบอยู่ในหุบเขา

หมู่บ้านนิวโตะออนเซ็น
หมู่บ้านนิวโตะออนเซ็นมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศญี่ปุ่นในฐานะบ่อน้ำพุร้อนลึกลับ มีที่พักติดออนเซ็นทั้งหมด 7 แห่ง แต่ละแห่งมีแหล่งต้นน้ำเป็นของตัวเอง ด้วยความหลากหลายทางด้านคุณสมบัติของบ่อน้ำพุร้อนและบรรยากาศของที่พักในแต่ละแห่ง จึงอยากแนะนำให้เพลิดเพลินไปกับความแตกต่างโดยการตระเวณไปยังที่พักต่างๆ 
เมื่อซื้อแผนที่ "ยุเมะกุริ-แมพ" ในราคา 600 เยน สามารถใช้นั่งรถบัสสาย "ยุเมะกุริ-โก" ที่วนรอบหมู่บ้านนิวโตะออนเซ็นได้ไม่จำกัดเที่ยวในหนึ่งวัน ซึ่งสะดวกมาก สำหรับแขกผู้เข้าพักสามารถซื้อ "ยุเมะกุริ-โจ" ที่รวมค่าลงแช่บ่อน้ำพุร้อนในที่พักทั้ง 7 แห่งในราคา 1,800 เยน โดยทั้งหมดนี้มีจำหน่ายที่แผนกต้อนรับของที่พักแต่ละแห่ง
วันที่ 2

กำแพงหิมะ แอสไปต์ไลน์

เพลิดเพลินกับซากุระและหิมะไปพร้อมกัน ณ อุทยานแห่งชาติโทะวะดะฮะจิมันไท

กำแพงหิมะ แอสไปต์ไลน์
ฮะจิมันไทเป็นกลุ่มภูเขาพื้นที่ราบสูงที่มีความสูง 1,613 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลซึ่งครอบคลุมพื้นที่อิวะเตะและอะคิตะ ""เส้นทางกำแพงหิมะฮะจิมันไท"" เป็นถนนสำหรับรถยนต์ยาวประมาณ 27 กม. ซึ่งวิ่งตัดผ่านฮะจิมันไท โดยเริ่มจากเขตโกะไซโฉะ ฮะจิมันไท จังหวัดอิวะเตะไปจนถึงออนเซ็นโทะโระโกะ จังหวัดอะคิตะ ถนนจะปิดการสัญจรในช่วงฤดูหนาว (ต้นเดือนพฤศจิกายน - กลางเดือนเมษายน) “กำแพงหิมะ"" เป็นกำแพงหิมะที่เกิดขึ้นมาหลังจากกวาดหิมะออก 
ช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปีจะมีผู้คนมากมายมาเพลิดเพลินกับการขับรถหลังจากยกเลิกการห้ามสัญจรผ่านในช่วงฤดูหนาว หากรีบไปแต่เนิ่นๆ ก็อาจจะยังได้เพลินตากับต้นไม้น้ำแข็ง (จุเฮียว) ด้วย รวมถึงมีเอกลักษณ์อยู่ตรงที่สามารถชมได้เป็นระยะเวลานานจนถึงช่วงโกลเด้นวีค กำแพงหิมะมีความยาวทั้งหมด 27 กม. และยาวเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น แถมยิ่งใกล้ยอดเขามากเท่าไรความสูงของกำแพงก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งกำแพงหิมะที่สูงที่สุดมีความสูงถึง 8 เมตร
เชิงเขาฮะจิมันไทมีจุดชมซากุระชื่อดังมากมาย การเพลิดเพลินกับซากุระหลังจากอิ่มเอิบกับกำแพงหิมะจึงได้รับความนิยมเช่นกัน รวมถึงขอแนะนำ “รถบัสนำเที่ยวฮะจิมันไท สายชมซากุระและกำแพงหิมะ” ที่จะให้บริการตามฤดูกาลด้วย
บนยอดเขามีอาคารสำหรับพักผ่อนและสามารถชมทิวทัศน์ได้จากตรงนี้ด้วย
บริเวณใกล้เคียงยังมีโทชิจิออนเซ็น ฉะนั้นอย่าลืมลองแวะมาระหว่างขับรถเล่นกันนะคะ

ดราก้อน อาย (บึงคางามินุมะ)

ทิวทัศน์สุดพิศวง "ฮาจิมันไต ดราก้อนอาย" ดวงตามังกรที่สร้างขึ้นโดยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

ดราก้อน อาย (บึงคางามินุมะ)
ทิวทัศน์สุดพิศวง ""ฮาจิมันไต ดราก้อนอาย"" จะปรากฏขึ้นในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจาก""บึงคางามินุมะ"" ที่อยู่ใกล้กับยอดเขาฮาจิมันไตเกิดจากหิมะที่ตกลงมาทับถมกันในช่วงฤดูหนาว เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิหิมะที่บริเวณขอบและตรงกลางจะค่อย ๆ ละลายกลายเป็นรูปคล้ายกับโดนัท และมีการสะท้อนกับแสงอาทิตย์ สีของท้องฟ้า และอื่น ๆ เมื่อเงื่อนไขต่าง ๆ เหล่านี้ประกอบเข้าด้วยกันก็จะสามารถมองเห็นปรากฏการณ์นี้ได้ใกล้กันกับบึงคางามิ-นุมะ คือ เมกาเนะ-นุมะ บึงน้ำที่มีสีเขียวมรกตส่องประกาย ที่เพิ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น ""น้ำตามังกร และกำลังได้รับความนิยมไปพร้อม ๆ กับดราก้อนอายด้วยบริเวณรอบคางามินุมะที่คุณสามารถเดินเล่นสบาย ๆ ในขณะคร่อมพรมแดนระหว่างจังหวัด ที่จุดนี้มีปล่องภูเขาไฟมากมายที่เกิดจากการระเบิดของแรงดันไอน้ำ จึงสามารถพบเห็นบึงน้ำหลายแห่ง เช่น ""บึงฮาจิมันนุมะ"" และ ""บึงกามะนุมะ"" ที่มีน้ำสะสมอยู่ในหลุมปากปล่องเหล่านี้แนะนำให้ชมวิวทิวทัศน์จากบริเวณจุดชมวิว ฉะนั้นอย่าพลาดที่จะมาชมวิวพาโนราม่าของธรรมชาติอันกว้างใหญ่ในตอนที่มาเยือนที่นี่
หลังจากชมวิวดราก้อนอายแล้ว ก็สามารถเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศที่อยู่ในบริเวณใกล้ ๆ ได้ และยังมีจุดชมดราก้อนอายอีกหลายจุดที่ทิวทัศน์จะแตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาลโปรดแวะมาเยี่ยมเยียนเรา
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ดราก้อนอาย

Mizusawa Onsenkyo (Semboku City, Akita Prefecture)

A popular hot spring resort town

Mizusawa Onsenkyo (Semboku City, Akita Prefecture)
This hot spring town overlooks Lake Tazawa. It is located at the very front of the Tazawako Plateau and is dotted with hotels, traditional inns, unique pensions, guesthouses, and more. It is a hot spring resort for health maintenance and sports that is close to the Tazawako Snow Resort.
วันที่ 3

โอดาเตะ - โคซากะ เรลเวย์ เรลไบค์ (เมืองโอดาเตะ จังหวัดอะคิตะ)

โอดาเตะ - โคซากะ เรลเวย์ เรลไบค์ (เมืองโอดาเตะ จังหวัดอะคิตะ)
""โอดาเตะ - โคซากะ เรลเวย์ เรลไบค์"" เป็นการ ""ขี่จักรยานไปบนรางรถไฟ"" ที่อดีตเคยเป็นรางรถไฟของรถไฟสายโคซากะซึ่งปัจจุบันได้หยุดเดินรถไปแล้ว แรงสั่นสะเทือนที่ส่งไปยังขาของคุณขณะที่คุณปั่นจักรยานไปข้างหน้าด้วยเท้าเป็นความรู้สึกแปลกใหม่! เป็นกิจกรรมที่ไม่เพียงแต่สร้างความสุขให้กับแฟนๆ ที่ชื่นชอบรถไฟเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเด็กๆ ด้วย
ระยะทางไปกลับประมาณ 4 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที การปั่นขึ้นเขาถือเป็นการออกกำลังกายที่ดี แต่ขากลับนั้นเป็นทางลงเนินยาวรวดเดียวให้ความรู้สึกสุดยอดมาก! ในตอนที่ปั่นข้ามสะพานรถไฟก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ให้คุณได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามตระการตา หากคุณไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของร่างกาย ก็สบายใจได้เลยเพราะเรามีจักรยานยนต์ที่มีระบบไฟฟ้าที่คอยช่วยซัพพอร์ตให้บริการด้วย
จุดหมายปลายทาง
  • ทะเลสาบทะซะวะ และรูปปั้นทัตสึโกะ
  • คฤหาสน์ตระกูลนักรบคาคุโนะดาเตะ
  • พิพิธภัณฑ์งานหัตถกรรมจากเปลือกไม้ คาบะไซคุ คะคุโนะดาเตะ เมืองเซ็มโบกุ
  • หุบเขาดะคิกะเอะริ
  • หมู่บ้านนิวโตะออนเซ็น
  • กำแพงหิมะ แอสไปต์ไลน์
  • ดราก้อน อาย (บึงคางามินุมะ)
  • Mizusawa Onsenkyo (Semboku City, Akita Prefecture)
  • โอดาเตะ - โคซากะ เรลเวย์ เรลไบค์ (เมืองโอดาเตะ จังหวัดอะคิตะ)

ผู้ที่ดูหน้านี้ก็ดูหน้าเหล่านี้ด้วยเช่นกัน

เส้นทางชายฝั่งซันริคุและการผจญภัยทางทะเลในโทโฮคุ
ดูข้อมูลพื้นฐาน