2 คืน 3 วันในสึนางิออนเซ็น [Base! โทโฮคุ]
สึนางิออนเซ็นตั้งอยู่ใกล้กับสถานีโมริโอกะซึ่งมีชินคันเซ็นจอดอยู่
เหมาะที่จะเป็นฐานในการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง แต่เราก็แนะนำให้พักผ่อนท่ามกลางทิวทัศน์อันกว้างใหญ่เช่นกัน
เริ่มต้น
วันที่ 1
สวนมะกิบะ ฟาร์มโคะอิวะอิ
ฟาร์มกว้างใหญ่ที่มีภูเขาอิวะเตะเป็นฉากหลัง
ฟาร์มโคะอิวะอิมีประวัติยาวนานกว่า 120 ปี ส่วนหนึ่งของพื้นที่รวมทั้งหมด 3,000 เฮกตาร์ (30 ตารางกิโลเมตร) เปิดเป็น ""สวนมะกิบะ"" ให้คนทั่วไปเข้าชมได้ คุณจะได้ชมทั้งธรรมชาติอันกว้างใหญ่ แหล่งผลิต และทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ
อาคาร 21 แห่ง เช่น คอกวัว และถังเก็บผลผลิต ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น เช่น “สำนักงานใหญ่ฟาร์มโคะอิวะอิ” ซึ่งปรากฏอยู่ในผลงานของนักกวีชื่อมิยะซะวะ เค็นจิ สถาปัตยกรรมที่สร้างในช่วงตั้งแต่ครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 ถึงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ส่วนใหญ่ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบันนี้ ทัวร์พร้อมไกด์เล่าตำนานของฟาร์มโคะอิวะอิที่จะนำเที่ยวชมแหล่งผลิตซึ่งปกติไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญจึงได้รับความนิยมเป็นพิเศษอีกทั้งทัวร์เต็มอิ่มกับธรรมชาติที่ตระเวนชมเขตป่าซึ่งปกติจะไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมด้วย “แทรกเตอร์เทรน” อันเป็นตู้โดยสารโดยรถแทรกเตอร์ก็ได้รับความนิยมด้วยเช่นกัน
กิจกรรมก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมขี่ม้า การแสดงจากแกะ การทำเนย หรือการกระโดดบนแทรมโพลีน
ไม่ควรพลาดทานขนมหวานและอาหารที่ใช้วัตถุดิบผลิตในฟาร์ม แล้วก็เชิญมาเอร็ดอร่อยกับซอฟต์ครีมที่ทำจากนมรีดสดใหม่
การประดับไฟฤดูหนาวงานใหญ่ที่สุดในโทโฮคุจะให้คุณได้เพลิดเพลินกับฟาร์มในแบบที่แตกต่างกับตอนกลางวัน
ซากุระต้นเดี่ยวที่บานสะพรั่งโดยมีภูเขาอิวะเตะอันยิ่งใหญ่เป็นฉากหลังก็มีชื่อเสียงเช่นกัน
อาคาร 21 แห่ง เช่น คอกวัว และถังเก็บผลผลิต ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น เช่น “สำนักงานใหญ่ฟาร์มโคะอิวะอิ” ซึ่งปรากฏอยู่ในผลงานของนักกวีชื่อมิยะซะวะ เค็นจิ สถาปัตยกรรมที่สร้างในช่วงตั้งแต่ครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 ถึงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ส่วนใหญ่ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบันนี้ ทัวร์พร้อมไกด์เล่าตำนานของฟาร์มโคะอิวะอิที่จะนำเที่ยวชมแหล่งผลิตซึ่งปกติไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญจึงได้รับความนิยมเป็นพิเศษอีกทั้งทัวร์เต็มอิ่มกับธรรมชาติที่ตระเวนชมเขตป่าซึ่งปกติจะไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมด้วย “แทรกเตอร์เทรน” อันเป็นตู้โดยสารโดยรถแทรกเตอร์ก็ได้รับความนิยมด้วยเช่นกัน
กิจกรรมก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมขี่ม้า การแสดงจากแกะ การทำเนย หรือการกระโดดบนแทรมโพลีน
ไม่ควรพลาดทานขนมหวานและอาหารที่ใช้วัตถุดิบผลิตในฟาร์ม แล้วก็เชิญมาเอร็ดอร่อยกับซอฟต์ครีมที่ทำจากนมรีดสดใหม่
การประดับไฟฤดูหนาวงานใหญ่ที่สุดในโทโฮคุจะให้คุณได้เพลิดเพลินกับฟาร์มในแบบที่แตกต่างกับตอนกลางวัน
ซากุระต้นเดี่ยวที่บานสะพรั่งโดยมีภูเขาอิวะเตะอันยิ่งใหญ่เป็นฉากหลังก็มีชื่อเสียงเช่นกัน
หมู่บ้านโมริโอกะเทะสึคุริมูระ
หมู่บ้านโมริโอกะเทสึคุริมูระประกอบด้วย 3 โซนต่างๆ ได้แก่ โซนอุตสาหกรรมโมริโอกะ โซนโรงงานสินค้าทำมือ และโซนนัมบุมาการิยะโซน "โรงงานสินค้าทำมือ" ประกอบด้วยอาคาร 15 หลังจากสินค้า 11 ชนิดให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศการทำงานของช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด และยังมีโซน "นับบุมาการิยะ" ในเขตนัมบุที่เคยเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงม้ากับโซน "ของฝาก" ที่มีผลิตภัณฑ์และสินค้าประจำถิ่นมากมายให้ท่านได้เต็มอิ่มกับเสน่ห์ของโมริโอกะ
สึนางิออนเซ็น
โมริโอกะโนะโอคุซาชิกิ, น้ำพุร้อนที่เกี่ยวพันกับมินาโมโตะโนะโยชิอิเอะ
เมืองออนเซ็นริมอ่างเก็บน้ำชื่อ “ทะเลสาบโกโชะ” มีวิวสวยๆ ซึ่งเกิดขึ้นมาจาก “สะพานสึนางิโอฮาชิ” ที่ทอดข้ามทะเลสาบและภูเขาอิวะเตะให้ได้เพลิดเพลินกัน
สึนางิออนเซ็นมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 900 ปี และชื่อของมันตั้งมาจากตอนที่นายพลมินาโมโตะโนะโยชิอิเอะผูกม้าตัวโปรดเอาไว้กับหินก่อนจะลงแช่เมื่อศตวรรษที่ 11 ภายในศาลเจ้าสึนางิออนเซ็นจึงมีหินสึนางิอยู่ ผู้คนจำนวนมากคุ้นเคยดีว่าเป็น “โมริโอกะโนะโอคุซาชิกิ (สถานที่พักผ่อนแห่งโมริโอกะ)” น้ำพุร้อนมีคุณสมบัติเป็นด่างและมีชื่อเสียงว่าเป็นน้ำพุร้อนผิวงามซึ่งจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนผิวและทำให้ผิวลื่นเรียบเนียน อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือการมีกรดเมตาซิลิเกตอันเป็นสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติซึ่งกำลังเป็นที่สนใจรวมอยู่ด้วย
ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีโดยนั่งรถยนต์ 30 นาทีจากสถานีโมริโอกะ นอกจากบริเวณใกล้เคียงจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง “ฟาร์มโคะอิวะอิ” และ “หมู่บ้านสิ่งประดิษฐ์มือโมริโอกะ” แล้ว ยังเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวอย่างทะเลสาบโทะวะดะ ฮะจิมันไท คะคุโนะดะเทะ ชายหาดโจโดะงาฮามะ ฮิราอิซุมิได้ง่ายอีกด้วย จึงขอแนะนำให้เป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการท่องเที่ยวโทโฮคุตอนเหนือ เมืองออนเซ็นมีที่พักใหญ่น้อยมากมาย ฉะนั้นคุณน่าจะหาโรงแรมที่ถูกใจได้ไม่ยาก
เทศกาลทะเลสาบโกโชะในฤดูร้อนจะมีการจุดดอกไม้ไฟแสนงดงามเหนือท้องทะเลสาบ จึงต้องไม่พลาดมาเพลิดเพลินกับทะเลสาบไปพร้อมกับทิวทัศน์ทั้งสี่ฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นซากุระ ใบไม้สีเขียวชอุ่ม ใบไม้เปลี่ยนสี หรือวิวหิมะกันได้ที่นี่
สึนางิออนเซ็นมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 900 ปี และชื่อของมันตั้งมาจากตอนที่นายพลมินาโมโตะโนะโยชิอิเอะผูกม้าตัวโปรดเอาไว้กับหินก่อนจะลงแช่เมื่อศตวรรษที่ 11 ภายในศาลเจ้าสึนางิออนเซ็นจึงมีหินสึนางิอยู่ ผู้คนจำนวนมากคุ้นเคยดีว่าเป็น “โมริโอกะโนะโอคุซาชิกิ (สถานที่พักผ่อนแห่งโมริโอกะ)” น้ำพุร้อนมีคุณสมบัติเป็นด่างและมีชื่อเสียงว่าเป็นน้ำพุร้อนผิวงามซึ่งจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนผิวและทำให้ผิวลื่นเรียบเนียน อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือการมีกรดเมตาซิลิเกตอันเป็นสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติซึ่งกำลังเป็นที่สนใจรวมอยู่ด้วย
ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีโดยนั่งรถยนต์ 30 นาทีจากสถานีโมริโอกะ นอกจากบริเวณใกล้เคียงจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง “ฟาร์มโคะอิวะอิ” และ “หมู่บ้านสิ่งประดิษฐ์มือโมริโอกะ” แล้ว ยังเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวอย่างทะเลสาบโทะวะดะ ฮะจิมันไท คะคุโนะดะเทะ ชายหาดโจโดะงาฮามะ ฮิราอิซุมิได้ง่ายอีกด้วย จึงขอแนะนำให้เป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการท่องเที่ยวโทโฮคุตอนเหนือ เมืองออนเซ็นมีที่พักใหญ่น้อยมากมาย ฉะนั้นคุณน่าจะหาโรงแรมที่ถูกใจได้ไม่ยาก
เทศกาลทะเลสาบโกโชะในฤดูร้อนจะมีการจุดดอกไม้ไฟแสนงดงามเหนือท้องทะเลสาบ จึงต้องไม่พลาดมาเพลิดเพลินกับทะเลสาบไปพร้อมกับทิวทัศน์ทั้งสี่ฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นซากุระ ใบไม้สีเขียวชอุ่ม ใบไม้เปลี่ยนสี หรือวิวหิมะกันได้ที่นี่
วันที่ 2
ถ้ำริวเซ็นโด
ทะเลสาบใต้ดิน “Dragon Blue” รอคุณอยู่ พร้อมกับหินย้อยอันลึกลับ!
ถ้ำริวเซนโดเป็นหนึ่งในสามถ้ำหินปูนที่สำคัญของญี่ปุ่น และถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งชาติในปี 1938 ในชื่อ "ถ้ำแห่งเมือง Iwaizumi และค้างคาว" คาดว่าความยาวรวมของถ้ำที่ยังอยู่ในระหว่างการสำรวจ จะมากกว่า 5,000 เมตรจากการสำรวจครั้งล่าสุด ความยาวรวมมากกว่า 4,088 เมตร และความแตกต่างของระดับความสูงคือ ±195 ม.ส่วนที่เปิดให้เข้าชมได้นั้นยาวประมาณ 700 เมตร ไฮไลท์ของถ้ำนี้คือทัศนียภาพอันลึกลับที่ทอดยาวเป็นทางตรงจากทางเข้าและทะเลสาบใต้ดินที่มีน้ำใสสะอาดมากจนส่องแสงเป็น "สีน้ำเงินมังกร"
คุณสามารถเยี่ยมชมได้ตั้งแต่ทะเลสาบใต้ดินแห่งแรกที่ค้นพบในปี 1950 ไปจนถึงทะเลสาบใต้ดินแห่งที่สามซึ่งมีความลึกสูงสุดถึง 98 เมตรน้ำที่อุดมด้วยแร่ธาตุของถ้ำริวเซนโดซึ่งได้รับการหล่อเลี้ยงในพื้นที่ป่าโดยรอบ ถูกใช้เป็นแหล่งน้ำประปาสำหรับเมือง Iwaizumiและยังเป็นที่นิยมในฐานะของที่ระลึกอีกด้วย
นอกจากจะได้เห็นค้างคาวเกือกม้าใหญ่ที่อาศัยอยู่ในถ้ำริวเซ็นโดแล้วยังมีค้างคาวที่หนีความหนาวในฤดูหนาวเข้ามาอยู่ในถ้ำรวมแล้วกว่า 5 ชนิดที่ได้รับการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยขณะเข้าชมขอให้ทุกคนชมด้วยความเรียบร้อยอย่านำมือไปสัมผัสตัวค้างคาว
คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ Ryusendo Shindo ซึ่งคุณสามารถเข้าชมได้ด้วยตั๋วเดียวกับถ้ำริวเซ็นโดพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ใช้ถ้ำธรรมชาติซึ่งเป็นถ้ำหินปูนยาว 200 เมตร เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ไฮไลท์ของที่นี่คือหินงอกหินย้อยรูปทรงต่างๆ ที่เกิดจากหินชั้นดึกดำบรรพ์มีการค้นพบร่องรอยวัฒนธรรมจากยุคโจมงตอนต้นและมีการขุดพบเครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับ เปลือกหอย ฯลฯอีกมากมาย
คุณสามารถเยี่ยมชมได้ตั้งแต่ทะเลสาบใต้ดินแห่งแรกที่ค้นพบในปี 1950 ไปจนถึงทะเลสาบใต้ดินแห่งที่สามซึ่งมีความลึกสูงสุดถึง 98 เมตรน้ำที่อุดมด้วยแร่ธาตุของถ้ำริวเซนโดซึ่งได้รับการหล่อเลี้ยงในพื้นที่ป่าโดยรอบ ถูกใช้เป็นแหล่งน้ำประปาสำหรับเมือง Iwaizumiและยังเป็นที่นิยมในฐานะของที่ระลึกอีกด้วย
นอกจากจะได้เห็นค้างคาวเกือกม้าใหญ่ที่อาศัยอยู่ในถ้ำริวเซ็นโดแล้วยังมีค้างคาวที่หนีความหนาวในฤดูหนาวเข้ามาอยู่ในถ้ำรวมแล้วกว่า 5 ชนิดที่ได้รับการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยขณะเข้าชมขอให้ทุกคนชมด้วยความเรียบร้อยอย่านำมือไปสัมผัสตัวค้างคาว
คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ Ryusendo Shindo ซึ่งคุณสามารถเข้าชมได้ด้วยตั๋วเดียวกับถ้ำริวเซ็นโดพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ใช้ถ้ำธรรมชาติซึ่งเป็นถ้ำหินปูนยาว 200 เมตร เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ไฮไลท์ของที่นี่คือหินงอกหินย้อยรูปทรงต่างๆ ที่เกิดจากหินชั้นดึกดำบรรพ์มีการค้นพบร่องรอยวัฒนธรรมจากยุคโจมงตอนต้นและมีการขุดพบเครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับ เปลือกหอย ฯลฯอีกมากมาย
ชายหาดโจโดะกะฮะมะ
ชายหาดดั่งแดนสุขาวดี จุดชมวิวสวยที่มิยะซะวะ เค็นจิ ก็เคยมาเยือน
ชายหาดโจโดะกะฮะมะอยู่ในสวนซันริคุจีโอพาร์ค อุทยานของญี่ปุ่นซันริคุฟุคโค มีต้นสนเขียวชอุ่มเรียงรายริมอ่าวเล็กๆ ซึ่งเกิดจากกรวดและหินอัคนีสีขาว ความงดงามราวสวนญี่ปุ่นทำให้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินของญี่ปุ่น ในอดีตเคยมีพระสงฆ์มาเยือนที่แห่งนี้แล้วกล่าวชมว่า ""ประหนึ่งแดนสุขาวดี (โจโดะ)“ จึงเป็นที่มาของชื่อหาด
คลื่นสงบและน้ำใสจึงเป็นที่นิยมในการมาเล่นน้ำช่วงฤดูร้อนด้วย ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “ร้อยอันดับจุดเล่นน้ำแสนสนุก” และหนึ่งใน “88 อันดับจุดเล่นน้ำของญี่ปุ่น” ฯลฯ
การล่องเรือจะสามารถให้อาหารนกนางนวลหางดำได้ นอกจากชายหาดโจโดะกะฮะมะแล้วยังมองเห็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติของญี่ปุ่นอย่าง “ช่องน้ำพุซากิยามะ” รวมถึงหน้าผาสูงชันอย่าง “อาเนงาซากิ” และ “เกาะฮิเดะ” ที่มีวิวสวยๆ อีกด้วย
แนะนำให้ไปทำความเข้าใจที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหรือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์การประมงจังหวัดอิวะเตะซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงให้ลึกซึ้งก่อนค่อยไปชมวิว มีเส้นทางเดินเล่นเตรียมไว้ให้บริการและมีจุดชมวิวให้ได้มองทัศนียภาพสวยๆ ด้วย อาคารพักผ่อนเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งยังสามารถทานอาหารและมาหาซื้อของฝากได้อีกด้วย
มีทัวร์เรือลำเล็กจาก “โจโดะกะฮะมะมารีนเฮาส์” ถึง “ถ้ำฮาจิโนะเฮะ” ซึ่งเรียกกันว่า “ถ้ำสีน้ำเงิน” ทัวร์จะพาคุณผ่านระหว่างโขดหินไปพบกับน้ำทะเลสีครามแสนงาม แนะนำให้มาชมช่วงเช้าเพราะจะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่งกว่าปกติ
นักกวีและนักประพันธ์นิทานนามว่ามิยะซะวะ เค็นจิ ก็เคยมาเยือนชายหาดโจโดะกะฮะมะ เชิญคุณมาชมทัศนียภาพอันสวยงามไร้ที่เปรียบดั่งแดนสุขาวดีกันให้ได้
คลื่นสงบและน้ำใสจึงเป็นที่นิยมในการมาเล่นน้ำช่วงฤดูร้อนด้วย ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “ร้อยอันดับจุดเล่นน้ำแสนสนุก” และหนึ่งใน “88 อันดับจุดเล่นน้ำของญี่ปุ่น” ฯลฯ
การล่องเรือจะสามารถให้อาหารนกนางนวลหางดำได้ นอกจากชายหาดโจโดะกะฮะมะแล้วยังมองเห็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติของญี่ปุ่นอย่าง “ช่องน้ำพุซากิยามะ” รวมถึงหน้าผาสูงชันอย่าง “อาเนงาซากิ” และ “เกาะฮิเดะ” ที่มีวิวสวยๆ อีกด้วย
แนะนำให้ไปทำความเข้าใจที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหรือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์การประมงจังหวัดอิวะเตะซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงให้ลึกซึ้งก่อนค่อยไปชมวิว มีเส้นทางเดินเล่นเตรียมไว้ให้บริการและมีจุดชมวิวให้ได้มองทัศนียภาพสวยๆ ด้วย อาคารพักผ่อนเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งยังสามารถทานอาหารและมาหาซื้อของฝากได้อีกด้วย
มีทัวร์เรือลำเล็กจาก “โจโดะกะฮะมะมารีนเฮาส์” ถึง “ถ้ำฮาจิโนะเฮะ” ซึ่งเรียกกันว่า “ถ้ำสีน้ำเงิน” ทัวร์จะพาคุณผ่านระหว่างโขดหินไปพบกับน้ำทะเลสีครามแสนงาม แนะนำให้มาชมช่วงเช้าเพราะจะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่งกว่าปกติ
นักกวีและนักประพันธ์นิทานนามว่ามิยะซะวะ เค็นจิ ก็เคยมาเยือนชายหาดโจโดะกะฮะมะ เชิญคุณมาชมทัศนียภาพอันสวยงามไร้ที่เปรียบดั่งแดนสุขาวดีกันให้ได้
รถไฟซันริคุ
ดื่มด่ำกับความยิ่งใหญ่ตระการตาของทะเลซันริคุ รถไฟในโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เชื่อมชายฝั่งซันริคุเข้าด้วยกันจากเหนือจรดใต้
รถไฟสายริอัสของซันริคุเรลเวย์ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในฐานะเส้นทางรถไฟในโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ยาวที่สุดภายในประเทศ เกิดจากการบรูณะซ่อมแซมและโอนถ่ายการบริหารของเส้นทางในช่วงระหว่างมิยาโกะ-คะมะอิชิซึ่งเป็นรถไฟของบริษัท JR Yamada Line ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่โทโฮคุ เป็นเส้นทางรถไฟที่มีความยาวรวมประมาณ 163 กม. ที่เชื่อมชายฝั่งซันริคุเหนือใต้เข้าหากัน โดยนอกจากจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันตระการตาของทะเลซันริคุจากหน้าต่างรถไฟแล้ว ยังมีรถไฟหลากหลายรูปแบบให้บริการ มีทั้งรถไฟที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครที่มีที่นั่งเป็นแบบนั่งพื้นโบราณ รถไฟย้อนยุค รถไฟที่นั่งโคตัตสึ และรถไฟเพื่อการเรียนรู้ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว เป็นต้น
★ประกาศเรื่องแผนการให้บริการรถไฟhttps://www.sanrikutetsudou.com/wp-content/themes/responsive/event.html
★รถไฟเพื่อการเรียนรู้แผ่นดินไหวhttps://www.sanrikutetsudou.com/?p=23
★ประกาศเรื่องแผนการให้บริการรถไฟhttps://www.sanrikutetsudou.com/wp-content/themes/responsive/event.html
★รถไฟเพื่อการเรียนรู้แผ่นดินไหวhttps://www.sanrikutetsudou.com/?p=23
สึนางิออนเซ็น
โมริโอกะโนะโอคุซาชิกิ, น้ำพุร้อนที่เกี่ยวพันกับมินาโมโตะโนะโยชิอิเอะ
เมืองออนเซ็นริมอ่างเก็บน้ำชื่อ “ทะเลสาบโกโชะ” มีวิวสวยๆ ซึ่งเกิดขึ้นมาจาก “สะพานสึนางิโอฮาชิ” ที่ทอดข้ามทะเลสาบและภูเขาอิวะเตะให้ได้เพลิดเพลินกัน
สึนางิออนเซ็นมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 900 ปี และชื่อของมันตั้งมาจากตอนที่นายพลมินาโมโตะโนะโยชิอิเอะผูกม้าตัวโปรดเอาไว้กับหินก่อนจะลงแช่เมื่อศตวรรษที่ 11 ภายในศาลเจ้าสึนางิออนเซ็นจึงมีหินสึนางิอยู่ ผู้คนจำนวนมากคุ้นเคยดีว่าเป็น “โมริโอกะโนะโอคุซาชิกิ (สถานที่พักผ่อนแห่งโมริโอกะ)” น้ำพุร้อนมีคุณสมบัติเป็นด่างและมีชื่อเสียงว่าเป็นน้ำพุร้อนผิวงามซึ่งจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนผิวและทำให้ผิวลื่นเรียบเนียน อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือการมีกรดเมตาซิลิเกตอันเป็นสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติซึ่งกำลังเป็นที่สนใจรวมอยู่ด้วย
ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีโดยนั่งรถยนต์ 30 นาทีจากสถานีโมริโอกะ นอกจากบริเวณใกล้เคียงจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง “ฟาร์มโคะอิวะอิ” และ “หมู่บ้านสิ่งประดิษฐ์มือโมริโอกะ” แล้ว ยังเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวอย่างทะเลสาบโทะวะดะ ฮะจิมันไท คะคุโนะดะเทะ ชายหาดโจโดะงาฮามะ ฮิราอิซุมิได้ง่ายอีกด้วย จึงขอแนะนำให้เป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการท่องเที่ยวโทโฮคุตอนเหนือ เมืองออนเซ็นมีที่พักใหญ่น้อยมากมาย ฉะนั้นคุณน่าจะหาโรงแรมที่ถูกใจได้ไม่ยาก
เทศกาลทะเลสาบโกโชะในฤดูร้อนจะมีการจุดดอกไม้ไฟแสนงดงามเหนือท้องทะเลสาบ จึงต้องไม่พลาดมาเพลิดเพลินกับทะเลสาบไปพร้อมกับทิวทัศน์ทั้งสี่ฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นซากุระ ใบไม้สีเขียวชอุ่ม ใบไม้เปลี่ยนสี หรือวิวหิมะกันได้ที่นี่
สึนางิออนเซ็นมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 900 ปี และชื่อของมันตั้งมาจากตอนที่นายพลมินาโมโตะโนะโยชิอิเอะผูกม้าตัวโปรดเอาไว้กับหินก่อนจะลงแช่เมื่อศตวรรษที่ 11 ภายในศาลเจ้าสึนางิออนเซ็นจึงมีหินสึนางิอยู่ ผู้คนจำนวนมากคุ้นเคยดีว่าเป็น “โมริโอกะโนะโอคุซาชิกิ (สถานที่พักผ่อนแห่งโมริโอกะ)” น้ำพุร้อนมีคุณสมบัติเป็นด่างและมีชื่อเสียงว่าเป็นน้ำพุร้อนผิวงามซึ่งจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนผิวและทำให้ผิวลื่นเรียบเนียน อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือการมีกรดเมตาซิลิเกตอันเป็นสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติซึ่งกำลังเป็นที่สนใจรวมอยู่ด้วย
ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีโดยนั่งรถยนต์ 30 นาทีจากสถานีโมริโอกะ นอกจากบริเวณใกล้เคียงจะมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง “ฟาร์มโคะอิวะอิ” และ “หมู่บ้านสิ่งประดิษฐ์มือโมริโอกะ” แล้ว ยังเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวอย่างทะเลสาบโทะวะดะ ฮะจิมันไท คะคุโนะดะเทะ ชายหาดโจโดะงาฮามะ ฮิราอิซุมิได้ง่ายอีกด้วย จึงขอแนะนำให้เป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการท่องเที่ยวโทโฮคุตอนเหนือ เมืองออนเซ็นมีที่พักใหญ่น้อยมากมาย ฉะนั้นคุณน่าจะหาโรงแรมที่ถูกใจได้ไม่ยาก
เทศกาลทะเลสาบโกโชะในฤดูร้อนจะมีการจุดดอกไม้ไฟแสนงดงามเหนือท้องทะเลสาบ จึงต้องไม่พลาดมาเพลิดเพลินกับทะเลสาบไปพร้อมกับทิวทัศน์ทั้งสี่ฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นซากุระ ใบไม้สีเขียวชอุ่ม ใบไม้เปลี่ยนสี หรือวิวหิมะกันได้ที่นี่
วันที่ 3
สวนซากปราสาทโมริโอกะ (สวนอิวะเตะ)
ห้ามพลาดชมความงามของกำแพงหิน! มาดื่มด่ำกับมนต์เสน่ห์ในแต่ละฤดูกาลที่ซากปราสาท
"ปราสาทโมริโอกะได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและหนึ่งในร้อยอันดับปราสาทชื่อดังของญี่ปุ่น ปราสาทตั้งอยู่ในจุดที่เดินทางง่ายโดยใช้เวลาเดิน 15 นาทีจากสถานีโมริโอกะ
เทศกาลซากุระ” ในฤดูใบไม้ผลิจะมีคนมากันอย่างคับคั่ง ซากุระที่เปล่งประกายจากแสงของโคมไฟในช่วงกลางคืนก็จะมาช่วยสะกดผู้คนให้หลงใหลด้วย เดือนพฤษภาคมจะมีซุ้มดอกวิสทีเรียและเดือนกรกฎาคมจะมีดอกไฮเดรนเยียมาแต่งแต้มสีสันสวยงามให้บริเวณบ่อน้ำสึรุกะ ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบเมเปิ้ลและใบแปะก๊วยเปลี่ยนสีมาช่วยเสริมความงามให้กับกำแพงหินที่อยู่ด้านหลัง “โมริโอกะยูกิอาคาริ” ในฤดูหนาวจะมีกระท่อมหิมะจิ๋วจุดไฟสว่างมารังสรรค์ให้ภายในสวนมีความมหัศจรรย์ ที่นี่เป็นสวนอันเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ทิวทัศน์จะแปรเปลี่ยนไปตามฤดูกาลทั้งสี่
ปราสาทโมริโอกะเริ่มสร้างในปี 1597 และเรียกกันว่าปราสาทโคซุคาตะ เป็นปราสาทสำหรับอยู่อาศัยของผู้ครองแคว้นแต่ตัวปราสาทพังไปเกือบหมดในปี 1874 แต่กำแพงหินยังคงอยู่ในสภาพสวยงามและมีการปรับปรุงขึ้นมาใหม่ให้เป็นสวนในปี 1906
ปัจจุบันคุ้นเคยกันในชื่อ “สวนซากปราสาทโมริโอกะ” และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “ร้อยอันดับสวนทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น”
มีศิลาจารึกของเหล่าบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับสถานที่แห่งนี้ เช่น ศิลาจารึกบทเพลงของอิชิคาวะ ทาคุโบคุ ศิลาจารึกบทกวีของมิยะซะวะ เค็นจิ และศิลาจารึกงานประพันธ์ของนิโตเบะ อินาโซ
เทศกาลซากุระ” ในฤดูใบไม้ผลิจะมีคนมากันอย่างคับคั่ง ซากุระที่เปล่งประกายจากแสงของโคมไฟในช่วงกลางคืนก็จะมาช่วยสะกดผู้คนให้หลงใหลด้วย เดือนพฤษภาคมจะมีซุ้มดอกวิสทีเรียและเดือนกรกฎาคมจะมีดอกไฮเดรนเยียมาแต่งแต้มสีสันสวยงามให้บริเวณบ่อน้ำสึรุกะ ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบเมเปิ้ลและใบแปะก๊วยเปลี่ยนสีมาช่วยเสริมความงามให้กับกำแพงหินที่อยู่ด้านหลัง “โมริโอกะยูกิอาคาริ” ในฤดูหนาวจะมีกระท่อมหิมะจิ๋วจุดไฟสว่างมารังสรรค์ให้ภายในสวนมีความมหัศจรรย์ ที่นี่เป็นสวนอันเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ทิวทัศน์จะแปรเปลี่ยนไปตามฤดูกาลทั้งสี่
ปราสาทโมริโอกะเริ่มสร้างในปี 1597 และเรียกกันว่าปราสาทโคซุคาตะ เป็นปราสาทสำหรับอยู่อาศัยของผู้ครองแคว้นแต่ตัวปราสาทพังไปเกือบหมดในปี 1874 แต่กำแพงหินยังคงอยู่ในสภาพสวยงามและมีการปรับปรุงขึ้นมาใหม่ให้เป็นสวนในปี 1906
ปัจจุบันคุ้นเคยกันในชื่อ “สวนซากปราสาทโมริโอกะ” และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “ร้อยอันดับสวนทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น”
มีศิลาจารึกของเหล่าบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับสถานที่แห่งนี้ เช่น ศิลาจารึกบทเพลงของอิชิคาวะ ทาคุโบคุ ศิลาจารึกบทกวีของมิยะซะวะ เค็นจิ และศิลาจารึกงานประพันธ์ของนิโตเบะ อินาโซ
อาคารหลังคาแดง ธนาคารอิวาเทะ
อาคารแห่งนี้แต่เดิมเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคารโมริโอกะ สร้าขึ้นเมื่อปีเมจิที่ 44 (1911) โดยทัตสึโนะ คิงโกะ ผู้ออกแบบสถานีรถไฟโตเกียว และคะไซ มันจิ ถือเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ ภายในอาคารแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ โซน "ธนาคารโมริโอกะ (คิดค่าเข้าชม)" ที่มีนิทรรศการต่างๆเกี่ยวกับอาคารแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้าง ผู้ออกแบบ และประวัติของธนาคาร และโซน "ธนาคารอิวาเตะ (ฟรี)" ที่เปิดโอกาสให้คนในชุมชนสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเมืองโมริโอกะ
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเมืองโมริโอกะเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ (ฟิลด์มิวเซียม) ที่รวมเอาปราสาทโมริโอกะกับเมืองโจกะมาจิ (เมืองใจกลาง) เข้าไว้ด้วยกันเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เมืองกลับมามีชีวิตชีวามากขึ้นในฐานะที่เป็นศูนย์รวมชุมชนและการเรียนรู้ที่จัดเก็บ อนุรักษ์ และเผยแพร่ข้อมูลทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เราจะรักษาความเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมแห่งใหม่อันเป็น "เมืองโมริโอกะที่สามารถเดินเล่นได้ทุกเมื่อ"
โมริโอกะบะหมี่เย็น
ความแน่นของเส้นบะหมี่ทำให้ติดใจ
สร้างสรรค์ขึ้นครั้งแรกโดยคนจากเปียงยางบนคาบสมุทรเกาหลี และปรับปรุงรสชาติดั้งเดิม ปัจจุบันมีร้านค้าหลายแห่งในเมืองโมริโอกะที่ให้บริการ และคุณสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติที่แต่ละร้านภาคภูมิใจได้ เส้นหมี่เย็นโมริโอกะมีลักษณะพิเศษคือเส้นโปร่งแสงที่เหนียวนุ่มซึ่งทำจากแป้งสาลีและแป้งมันฝรั่ง เส้นบะหมี่มีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม ซุปเข้มข้นที่ทำจากกระดูกวัว และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ที่ผสมผสานความเผ็ดและความเปรี้ยวของกิมจิ หลายๆ คนติดใจ โดยมัน คนที่ไม่ชอบเผ็ดสามารถปรับความเผ็ดได้โดยการปรับปริมาณกิมจิ คุณสามารถลองทำบะหมี่ด้วยมือได้ที่เวิร์คช็อป Pyonpyonsha Reimen ในหมู่บ้านแฮนด์เมดโมริโอกะ
บะหมี่เย็นเป็นหนึ่งในสามบะหมี่หลักของโมริโอกะ (วังโกะโซบะ บะหมี่เย็น และจาจาเม็ง)
บะหมี่เย็นเป็นหนึ่งในสามบะหมี่หลักของโมริโอกะ (วังโกะโซบะ บะหมี่เย็น และจาจาเม็ง)
บริษัท ซากุระกาโอะชูโซ จำกัด
โรงหมักสาเกที่อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันแสนอุดมสมบูรณ์ของเชิงเขาทาทาระ ทางตะวันออกของเมืองโมริโอกะ
ก่อตั้งในปีโชวะที่ 48 (พ.ศ. 2516) โดยการควบรวมโรงหมักสาเกในพื้นที่ชายฝั่งทางเหนือของจังหวัดอิวาเตะเข้าด้วยกันโดยใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เดียวกันว่า "ซากุระกาโอะ" จัดจำหน่ายอยู่ในจังหวัดอิวาเตะเป็นหลักในการหมักสาเกนั้น เราหมักแบบท้องถิ่นโดยการใช้ข้าวที่เพาะปลูกในจังหวัดอิวาเตะ เช่น “ยุอิโนะคะ” “กินกินงะ” เป็นต้นซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การส่งออกจากเอเชียตะวันออกไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เพิ่มขึ้นทุกปีนอกจากนี้เรายังผลิตเหล้าหวานโดยใช้อโรเนียที่เก็บเกี่ยวได้ในท้องถิ่นมาเป็นวัตถุดิบ และยังได้รับการรับรองให้เป็นทูตของอร่อยเมืองโมริโอกะด้วย
จุดหมายปลายทาง