ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติในปีโชวะที่ 27 (ค.ศ. 1952) สร้างขึ้นในปีเคโชที่ 12 (ค.ศ. 1607) โดยดาเตะ มาซามุเนะ
สร้างด้วยสถาปัตยกรรมศาลเจ้าที่เรียกว่า กงเกน ซุคุริ (อิชิโนะมะ ซุคุริ) ที่โถงหลัก, อิชิโนะมะ (ทางเดินชื่อม), และโถงสักการะถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นหลังเดียว หลังคาจั่วปั้นหยาทรงอิริโมยะ มุงด้วยไม้ ด้านหน้ามีจั่วทรงจิโดริฮาฟุ ส่วนชายคาเป็นทรงโนคิคาระฮาฟุที่สวยงามน่าทึ่ง ที่ฝ้าเพดานในอิชิโนะมะมีการวาดลวยลายดอกไม้และสมุนไพรนานาชนิด ใช้แลคเกอร์และผงโกฟุนเคลือบสีทั้งภายนอกและภายใน มีการแกะสลักและตกแต่งด้วยโลหะ สื่อถึงบรรยากาศที่งดงาม และเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกในยุคโมโมยามะ นากาโทกะ (อาคารยาวหน้าแคบที่อยู่ด้านหน้าศาลเจ้า) ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ส่วนประตูหินโทริอิได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัด วันที่ 14 มกราคม มีการจัดงาน "เทศกาลมัตสึทากิ (เทศกาลดงโตะ)" (ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้โดยเมืองเซนได) ที่มีการเผากิ่งสนที่ใช้ตกแต่งหน้าบ้านและป้ายเครื่องรางเก่าเพื่อขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มีความเจริญรุ่งเรืองในปีใหม่ และพิธี "ฮาดากะไมริ" (การมาไหว้สักการะศาลเจ้าแบบเปลือย) ที่จัดในช่วงนี้ก็โด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศนอกจากนี้ ในเดือนกันยายนจะมีการจัดงานเทศกาลประจำปีขึ้น ในช่วงนั้นจะมีการแสดงละครโนคางุระ (ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้) และขบวนแห่โอมิโคชิ (เกี้ยวศาลเจ้าขนาดเล็ก) ในบริเวณใกล้เคียง และมีการจัดพิธียาบุซาเมะชินจิ (การยิงธนูบนหลังม้า) ที่บริเวณด้านในศาลเจ้าในฤดูใบไม้ร่วง ในปีเฮเซที่ 16 (ค.ศ. 2004) งานอนุรักษ์และซ่อมแซมศาลเจ้าที่ใช้เวลายาวนานถึง 5 ปีก็ได้เสร็จสิ้นลง ความวิจิตรงดงามของศาลเจ้าในตอนที่สร้างเสร็จใหม่จึงได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
*ลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าของรูปภาพ (บางส่วน) เป็นของศาลเจ้าโอซากิฮะชิมังกู โปรดติดต่อศาลเจ้าโอซากิฮะชิมังกูผ่านทางอีเมลสำหรับการขอนุญาตใช้งาน
*ข้อมูลล่าสุดโปรดตรวจสอบที่เว็บไซต์ทางการ