หันหน้าไปทางทะเลญี่ปุ่นและเป็นเนินทรายที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นโดยมีความยาวประมาณ 35 กม. กล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในสามเนินทรายที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น ทุ่งสนที่ขึ้นอย่างหนาแน่นบนเนินทรายกับชายฝั่งที่ทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตาก็งดงามมาก แล้ววิวภูเขาโชคะอิซังที่มองเห็นโดดเด่นอยู่เหนือสิ่งเหล่านั้นก็มีความวิเศษเช่นกัน สุดทางทิศใต้มี “ชายฝั่งยุโนะฮะมะ” ที่จัดว่าเป็นหนึ่งใน “ร้อยอันดับวิวพระอาทิตย์อัสดงของญี่ปุ่น” และรีสอร์ตพร้อมออนเซ็นริมทะเลชื่อ “ยุโนะฮะมะออนเซ็น”
เนินทรายโชไนยังเป็นฉากในนวนิยายเรื่อง “นางแห่งเนินทราย (ซึนะโนะอนนะ)” ของโคโบ อาเบะอีกด้วย ลมกรรโชกแรงจากทะเล ทรายที่กัดกร่อนบ้าน ผิวน้ำทะเลที่ซัดเป็นระลอกคลื่น และหาดทรายที่ทอดยาวเหมือนคันศร เหล่านี้ถือเป็นทิวทัศน์ที่น่าก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการเขียนนวนิยายได้
ตรงนี้ยังเป็นจุดจัดงานเดินโดยใช้ไม้ค้ำยันครั้งแรกในญี่ปุ่น การเดินโดยใช้ไม้ค้ำยันจะทำให้ได้เพลิดเพลินกับแนวชายฝั่งทะเล หาดทราย ป่าสน และการเปลี่ยนแปลงของทิวทัศน์ สมัยก่อนจะมีของขึ้นชื่ออย่างเมลอนใส่เอาไว้ที่จุดจ่ายน้ำด้วย
บริเวณเนินทรายที่ได้รับการปกป้องจากป่าสนซึ่งช่วยขวางกั้นลมทะเลนั้นมีสวนเมลอนอยู่ทั่วพื้นที่จนเหมือนกับเป็นโอเอซิสในทะเลทราย ตอนกลางวันในช่วงกลางฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิสูงจนฝ่าเท้าไหม้ แต่อุณหภูมิตอนกลางคืนจะลดลงฮวบเพราะลมจากทะเล “เมลอนเนินทรายโชไน” ที่มีรสหวานจัดเพราะความแตกต่างของอุณหภูมินี้ถือเป็นเมลอนเปิดฤดูกาลในหน้าร้อน และเป็นผลไม้ขึ้นชื่อที่มีปริมาณการส่งออกจำหน่ายล้นหลาม และอย่าพลาดมาทานของหวานตามฤดูกาลของที่นี่ให้ได้ค่ะ